หากใครที่มีสุนัขไว้ในครอบครอง ก็มักจะเข้าใจดีว่าการฝึกสุนัขนั้นสำคัญไม่แพ้การดูแลหรือให้ข้าวให้น้ำเลยทีเดียว เพราะการฝึกสุนัขนั้นจะช่วยให้สุนัขมีระเบียบวินัย และเชื่อฟังคำสั่งของเจ้าของ และง่ายต่อการควบคุมในสถานการณ์ต่าง ๆ ซึ่งประโยชน์ในการฝึกสุนัขนั้นมีมากมายจนคาดไม่ถึง เจ้าของสุนัขหลาย ๆ คน มักจะละเลยการฝึกฝนสุนัข แต่เชื่อเถอะว่า การฝึกฝนสุนัขนั้นมีข้อดีมากกว่าที่คุณคิด
ทำไมการฝึกสุนัขถึงมีความสำคัญ
เจ้าของสุนัขหลาย ๆ คน มักจะมีคำถามสงสัยค้างคาใจว่าทำไมเราจึงต้องฝึกสุนัขด้วย เหตุผลที่เราต้องฝึกสุนัขนั้นก็เพื่อให้สุนัขมีระเบียบวินัย เชื่อฟังคำสั่งของเจ้าของ เนื่องจากสุนัขต้องใช้ชีวิตร่วมกับมนุษย์ จึงต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของสังคมมนุษย์
ในบางครั้งนั้นพฤติกรรมของสุนัขบางอย่างนั้นอาจเป็นอันตรายต่อมนุษย์ เช่น พฤติกรรมก้าวร้าว หรือสัญชาติญาณความเป็นสัตว์ป่ามาก่อน การฝึกในสุนัขจะช่วยขัดเกลาความก้าวร้าวและพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์เหล่านั้นให้หมดไป อีกทั้งการฝึกสุนัขจะช่วยให้สุนัขมีความคุ้นเคยในการใช้ชีวิตในสังคมมนุษย์นั่นเอง
เมื่อไหร่ที่ควรเริ่มฝึกสุนัข
เจ้าของสุนัขไม่จำเป็นต้องจริงจังกับการฝึกสุนัขมากจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้เกิดความกดดันทั้งตัวเจ้าของสุนัขเองและตัวสุนัข
นักจิตวิทยาสัตว์เลี้ยงกล่าวว่าเจ้าของสามารถเริ่มฝึกสุนัขได้เมื่อสุนัขมีอายุ 7 สัปดาห์ ด้วยการฝึกขั้นพื้นฐานเล็ก ๆ น้อย ๆ จากนั้นค่อยฝึกลงรายละเอียดยิบย่อยต่าง ๆ เมื่อสุนัขมีอายุมากขึ้น สำหรับอายุที่สามารถฝึกได้อย่างเต็มขั้น คืออายุในช่วง 3-4 เดือน
วิธีการฝึกสุนัขโดยการใช้สัญญาณมือ
อีกหนึ่งการฝึกที่เป็นที่นิยมมากในช่วงนี้ คือการฝึกสุนัขให้เชื่อฟังคำสั่งโดยการใช้สัญญาณมือ การฝึกฝนในลักษณะนี้อาจจะต้องใช้เวลาเพื่อให้สุนัขทำความเข้าใจกับสัญลักษณ์ต่าง ๆ แต่เมื่อฝึกฝนจนสำเร็จแล้ว รับรองว่าสุนัขและเจ้าของจะสามารถสื่อสารกันได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งการควบคุมสุนัขจะกลายเป็นเรื่องง่ายโดยที่คุณไม่คาดคิด สัญญาณมือสามารถใช้ในการฝึกฝนสุนัขได้ในทุก ๆ สายพันธุ์ โดยที่เจ้าของจะใช้มือเพื่อส่งสัญญาณให้สุนัขของคุณเห็นว่าคุณต้องการทำอะไร
ยกตัวอย่างเช่น การสั่งให้สุนัขนั่งหรือนอนลง โดยธรรมชาติแล้วสุนัขมักจะเก่งในการอ่านภาษากาย ซึ่งมีเจ้าของสุนัขหลายคนยืนยันมาแล้วว่าการออกคำสั่งด้วยภาษากายหรือสัญญาณมือนั้นง่ายกว่าการออกคำสั่งด้วยเสียงเสียอีกค่ะ
การออกคำสั่งด้วยสัญญาณมือนั้นมีประโยชน์ในหลากหลายสถานการณ์ เพราะเป็นการออกคำสั่งที่ง่ายกว่าโดยไม่ต้องเอ่ยปากใช้น้ำเสียง อีกทั้งยังสามารถใช้ได้ดีกับสุนัขหูหนวกที่ไม่สามารถตอบสนองต่อคำสั่งจากการพูดได้ ดังนั้น สัญญาณมือจึงช่วยให้เจ้าของสามารถฝึกสุนัขที่มีปัญหากับการได้ยินได้เหมือนกับการฝึกสุนัขตัวอื่น ๆ
แล้วขั้นตอนการฝึกฝนให้สุนัขเชื่อฟังคำสั่งด้วยสัญญาณมือนั้น เราจะเริ่มฝึกกันอย่างไรดีล่ะ? ไม่ยากเลยค่ะ วันนี้เรามีเคล็ดลับในการฝึกสุนัขด้วยสัญญาณมือมาฝากเจ้าของสุนัข เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า
พยายามดึงดูดความสนใจของสุนัขให้ได้
สัญญาณมือถูกใช้แทนคำสั่งทั่ว ๆ ไปที่สั่งด้วยคำพูด ขั้นตอนแรกคือการพยายามดึงความสนใจจากสุนัขของคุณให้ได้เสียก่อน ซึ่งการดึงความสนใจของสุนัขถือเป็นขั้นตอนแรกในการฝึกฝนทุก ๆ คำสั่ง สุนัขของคุณจะต้องสามารถเห็นสัญญาณมือได้อย่างชัดเจน ดังนั้น จงมั่นใจว่าสุนัขของคุณกำลังมองคุณอยู่ในขณะที่กำลังสอนสัญญาณมือให้กับสุนัข
อีกหนึ่งเคล็ดลับในการดึงดูดความสนใจของสุนัขคือการเลือกสถานที่ฝึกให้ปราศจากสิ่งรบกวนหรือสิ่งเร้าที่จะมากระตุ้นความสนใจของสุนัขออกจากการฝึกฝน สถานที่ที่เงียบสงบ หรือห้องปิดทึบที่ไม่มีสิ่งรบกวน ถือเป็นสถานที่ที่ดีในการฝึกฝนสุนัขให้เรียนรู้สัญญาณมือค่ะ
ในการดึงดูดความสนใจของสุนัขนั้น ให้เรียกชื่อสุนัขของคุณ แล้วดีดนิ้ว เพื่อให้สุนัขของคุณสนใจที่ตัวเจ้าของมากยิ่งขึ้น หากคุณดีดนิ้วไม่เป็น ก็แนะนำให้ใช้เสียงอื่น ๆ หรือการเคาะเบา ๆ ลงบนพื้นหรือสิ่งของใกล้ตัวให้เกิดเสียงที่ไม่ดังจนสุนัขของคุณตกใจ และเมื่อสุนัขเริ่มสนใจคุณแล้วก็สามารถเริ่มฝึกการรับคำสั่งด้วยสัญญาณมือได้เลยค่ะ
วิธีฝึกสุนัขให้ประพฤติดี เมื่อมีแขกมาเยี่ยมบ้าน
ให้สัญญาณมือ
เจ้าของสุนัขหลายคนพบว่าการสอนคำสั่งการเชื่อฟังขั้นพื้นฐานให้สุนัขนั้นสามารถทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น โดยใช้สัญญาณมือก่อนการออกคำสั่งด้วยการพูด หากคุณเคยฝึกสุนัขด้วยคำพูดมาก่อนแล้ว ให้พยายามหลีกเลี่ยงการพูดคำสั่งขณะออกคำสั่งด้วยสัญญาณมือ ซึ่งอาจจะทำได้ยากในช่วงแรก ๆ แต่เจ้าของสุนัขจะค่อย ๆ คุ้นชินกับการออกคำสั่งวิธีใหม่นี้ค่ะ
สัญลักษณ์สัญญาณมือมาตรฐานที่เจ้าของสุนัขส่วนใหญ่ควรรู้จัก แต่ไม่จำเป็นต้องทำตามสัญญาณนั้น ๆ ทั้งหมดค่ะ เจ้าของสุนัขสามารถสร้างสัญญาณมือด้วยตัวเองเพื่อฝึกสุนัขของคุณได้ด้วยเช่นเดียวกัน
ทำตามขั้นตอนการฝึกอบรมตามปกติ
เพื่อให้สุนัขของคุณเข้าใจคำสั่งสัญญาณมือ ให้ทำตามขั้นตอนการฝึกทำตามคำสั่งปกติ ตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังฝึกสุนัขให้นั่ง แนะนำให้ใช้มือข้างที่ไม่ได้ใช้ให้สัญญาณมือในการจัดท่านั่งให้สุนัข และเพื่อให้สุนัขได้เรียนรู้ว่าเมื่อเห็นสัญญาณมือนี้ จะต้องนั่งตามคำสั่งสัญญาณมือนั้น ๆ
ให้รางวัลสุนัขเมื่อสุนัขสามารถทำตามคำสั่งสัญญาณมือได้ เจ้าของสามารรถให้ขนมของโปรดของสุนัข หรือให้คำชมเชยพร้อมกับลูบหัวเบา ๆ เจ้าของสุนัขต้องมีความอดทนในการฝึกสุนัข สุนัขบางสายพันธุ์อาจมีสมาธิจดจ่อได้ไม่นานนัก แต่สุนัขที่มีอายุมากกว่าจะมีสมาธิจดจ่อนานกว่าสุนัขที่เด็กกว่า
ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยงในการฝึกสุนัขด้วยสัญญาณมือ
ในการฝึกฝนสุนัขให้เชื่อฟังด้วยการใช้สัญญาณมือนั้น มีข้อจำกัดที่เจ้าของสุนัขควรทำความเข้าใจด้วยเช่นเดียวกัน เช่น การฝึกสุนัขให้เชื่อฟังสัญญาณมืออาจจะสร้างความสับสนให้สุนัขได้หากเจ้าของใช้เสียงในการออกคำสั่งไปด้วยขณะฝึกฝนสุนัขด้วยสัญญาณมือ แนะนำให้สอนกันไปทีละอย่าง จนกว่าสุนัขจะคุ้นเคยและสามารถเรียนรู้ทั้งสองคำสั่งได้โดยปราศจากความสับสน
และเพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนและข้อผิดพลาดในการฝึกให้สุนัขเชื่อฟังทั้งคำสั่งจากสัญญาณมือและคำสั่งจากเสียง เจ้าของควรแน่ใจว่าสุนัขจะไม่ลืมการเชื่อฟังคำสั่งจากคำสั่งใดคำสั่งหนึ่ง เจ้าของสามารถสลับสับเปลี่ยนการออกคำสั่งได้ แต่ควรทำเมื่อสุนัขคุ้นชินและเข้าใจความแตกต่างของคำสั่งทั้งสองแล้วเป็นอย่างดี
แต่หากสุนัขของคุณเริ่มเบี่ยงเบนความสนใจ และเริ่มไม่สามารถโฟกัสกับคำสั่งของคุณ ก็ถึงเวลาที่ต้องฝึกเพิ่มเติมเพื่อเสริมบทเรียนก่อนหน้านี้ โดยการกลับไปที่ขั้นตอนแรกและเริ่มออกคำสั่งแต่ละคำสั่งเช่นเดียวกับที่ทำในตอนแรก
หากเจ้าของสุนัขรู้สึกสนุกสนานกับการฝึกฝนสุนัขด้วยการใช้สัญญาณมือ ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มทักษะความสามารถของสุนัขของคุณได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียวค่ะ อีกทั้งยังสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้พบเห็นได้ง่าย ๆ อีกด้วย
